ป้องกันความเสี่ยง ในสินค้าโภคภัณฑ์

ป้องกันความเสี่ยงในสินค้าโภคภัณฑ์ โดยการโยนสกี้ สินค้าโภคภัณฑ์ผู้เชี่ยวชาญ ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่ทำขึ้นของนักเก็งกำไรและ hedgers มันง่ายที่จะเข้าใจในสิ่งที่นักเก็งกำไรมีทั้งหมดเกี่ยวกับ - พวกเขาจะรับความเสี่ยงในตลาดที่จะทำให้เงิน hedgers เป็นเพียงเล็กน้อยยากที่จะเข้าใจ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพยายามที่จะจำกัดความเสี่ยงของพวกเขาโดยการป้องกันความเสี่ยงในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ตัวอย่างที่ง่ายที่สุดในการเชื่อมโยงไปยัง Hedger เป็นชาวนา ชาวนาเติบโตพืชถั่วเหลืองเช่นและมีความเสี่ยงที่ราคาถั่วเหลืองจะลดลงตามเวลาที่เขาเก็บเกี่ยวพืชผลของเขาในฤดูใบไม้ร่วง ดังนั้นเขาต้องการที่จะป้องกันความเสี่ยงของเขาโดยการขายถั่วเหลืองซึ่งล็อคในราคาสำหรับพืชของเขาในช่วงต้นฤดูการเจริญเติบโต สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวในการแลกเปลี่ยน CME กลุ่มประกอบด้วย 5,000 บุชเชลถั่วเหลือง หากเกษตรกรคาดว่าจะผลิต 500,000 บุชเชลถั่วเหลืองเขาจะขาย 100 สัญญาถั่วเหลือง ให้ถือว่าราคาของถั่วเหลืองปัจจุบันซื้อขายที่ $ 13 บุชเชล หากเกษตรกรรู้ว่าเขาสามารถทำกำไรที่ $ 10 ก็อาจจะฉลาดที่จะล็อคในราคา $ 13 โดยการขาย (ลัดวงจร) สัญญาฟิวเจอร์ส ความเสี่ยงคือการที่ราคาของถั่วเหลืองจะลดลงต่ำกว่า $ 10 ตามเวลาที่เขาเก็บเกี่ยวและสามารถที่จะขายพืชผลของเขาที่ตลาดในประเทศ มีความเป็นไปได้ว่าถั่วเหลืองสามารถย้ายมากขึ้นตามเวลาเก็บเกี่ยว อ่านต่อด้านล่าง ถั่วเหลืองอาจย้ายไป $ 16 บุชเชลและเกษตรกรสามารถทำกำไรมาก ตรงข้ามนอกจากนี้ยังอาจเกิดขึ้น - ราคาถั่วเหลืองสามารถถังและเกษตรกรสามารถก่อให้เกิดการสูญเสียอย่างมาก ส่วนหลักของธุรกิจคือการอยู่รอดและมีรายได้กำไรดีไม่เท่าใดเงินที่คุณสามารถทำให้ขณะที่โยนความระมัดระวังลม นั่นคือสิ่งที่ป้องกันความเสี่ยงเป็นข้อมูลเกี่ยวกับ มีสองส่วนที่จะป้องกันความเสี่ยงที่มี ตำแหน่งในสินค้าโภคภัณฑ์ (เงินสด) ที่มีทั้งการผลิตหรือจะต้องมีการซื้อ ด้านอื่น ๆ คือตำแหน่งในตลาดฟิวเจอร์สที่ Hedger สร้างเพื่อ จำกัด ความเสี่ยง กรณีทั่วไปเป็นที่หนึ่งของตำแหน่งที่จะย้ายในความโปรดปรานของ Hedger และอื่น ๆ ที่จะย้ายจาก Hedger ป้องกันความเสี่ยงที่สมบูรณ์แบบจะมีการแพร่กระจายป้องกันความเสี่ยงไม่เปลี่ยนแปลงเลยในช่วงของการป้องกันความเสี่ยง นี้จะทำให้ Hedger ไม่ดีกว่าหรือไม่มีเลยแย่ลงตามเวลาที่สินค้าขั้นสุดท้ายที่มีการซื้อจริงหรือขาย คนส่วนใหญ่จะคิดว่าจะเริ่มต้นการ hedgers ป้องกันความเสี่ยงโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ที่จะทำให้แน่ใจว่าพวกเขาไม่ได้มีความเสี่ยงใด ๆ ที่ราคาอาจทำให้การย้ายเป็นอันตรายก่อนที่จะมีการซื้อหรือการส่งมอบสินค้า แต่ที่มักจะไกลจากกรณีปกติ บาง บริษัท ไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงหรือพวกเขาไม่ค่อยป้องกันความเสี่ยง เป็นตัวอย่างที่ดีของเรื่องนี้คือเมื่อสายการบินถูกจับนอนเมื่อราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นจาก $ 30 ถึงเกือบ $ 150 ต่อบาร์เรล หลายสายการบินได้รับความเดือดร้อนสูญเสียมากและบางล้มละลายเนื่องจากค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงสูง ถ้าพวกเขาได้รับการป้องกันความเสี่ยงอย่างถูกต้องส่วนใหญ่มาจากการสูญเสียที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ พวกเขายังคงจะต้องมีการจ่ายค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น แต่พวกเขาจะได้ทำจำนวนมากของผลกำไรในตำแหน่งฟิวเจอร์ส สายการบินส่วนใหญ่อยู่ในขณะนี้ขยันมากเกี่ยวกับการใช้โปรแกรมการบริหารความเสี่ยงที่เข้มงวด เกษตรกรตัวอย่างเช่นบางครั้งไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจนนาทีสุดท้าย ราคาข้าวมักจะย้ายที่สูงขึ้นในเดือนมิถุนายน - กรกฎาคมระยะเวลาที่เกี่ยวกับภัยคุกคามสภาพอากาศ ในช่วงเวลานี้เกษตรกรดูราคาย้ายสูงขึ้นและสูงมักจะได้รับโลภ บางครั้งพวกเขารอนานเกินไปที่จะล็อคในราคาที่สูงและราคาที่พังพินาศ ในสาระสำคัญ hedgers เหล่านี้กลายเป็นนักเก็งกำไร สถานที่ตั้งของการป้องกันความเสี่ยงคือเหตุผลที่แลกเปลี่ยนล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ที่ถูกสร้างขึ้นมา มันยังคงเป็นเหตุผลหลักว่าทำไมแลกเปลี่ยนล่วงหน้ามีอยู่ในปัจจุบัน hedgers ไม่ได้ทำขึ้นในปริมาณหลักของการซื้อขาย แต่พวกเขาเป็นเหตุผลหลักว่าทำไมเศรษฐกิจแลกเปลี่ยนอยู่ นักเก็งกำไรทำขึ้นเป็นกลุ่มของปริมาณการซื้อขายและแลกเปลี่ยนจริงๆจะไม่อยู่โดยที่พวกเขา